บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สะเดาะเคราะห์เสริมบุญบารมีได้จริงหรือ


บทความนี้ เขียนโดยคุณไตรเทพ สุทธิคุณ โดยนำข้อมูลมาจาก นสพ.คม ชัด ลึก ท่านตั้งชื่อหน้าบทความในเว็บว่า “วิถีบุญ วิถีกรรม: สะเดาะเคราะห์เสริมบุญบารมีได้จริงหรือ?

เนื้อหาคร่าวๆ บางส่วนก็มีดังนี้

การสะเดาะเคราะห์ ทำให้เกิดมงคลจริงหรือไม่  เมื่อความเสียหายหรือเรื่องเลวร้ายเหล่านี้เกิดขึ้น ต่างก็พากันคิดว่า เป็นเคราะห์ร้าย ที่ต้องหาทางสะเดาะ เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ชีวิตรอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ

และมักพูดรวมกับการต่ออายุ เป็นการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ หรือแก้ไขสิ่งเลวร้ายให้กลายเป็นดี ที่เรียกว่า แก้กรรม โดยส่วนใหญ่นิยมทำในโอกาสสำคัญๆ เช่น
๑. สะเดาะเคราะห์วันเกิด
๒. สะเดาะเคราะห์วันสำคัญของชาติหรือศาสนา
๓. สะเดาะเคราะห์วันสงกรานต์
๔. สะเดาะเคราะห์วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วิธีการสะเดาะเคราะห์ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ ให้ทำการสะเดาะเคราะห์ ด้วยวิธีการจัดหา เครื่องสักการะและอุปกรณ์ต่างๆ มาใช้ในพิธี

หรือการจัดเครื่องสักการะดอกไม้หรือพวงมาลัย ธูป เทียนตั้งบูชาพระเคราะห์ประจำทิศและเพื่อบูชาพระประจำวันเกิด

พร้อมทั้งมีการสวดพระคาถาสะเดาะเคราะห์มีกำหนดตามอายุหรือตามกำลังวัน

บางคนก็ถือโอกาสทำบุญใส่บาตร บริจาคเป็นทาน ปล่อยสัตว์ให้ชีวิตเป็นทาน สวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิ นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์เป็นการสะเดาะเคราะห์ ต่ออายุให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยก็มี

ข้อความด้านบนนั้น เป็นส่วนของการเกริ่นนำเท่านั้น  ซึ่งยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมต้องการนำมาวิพากษ์วิจารณ์

อย่างไรก็ดี ข้อความด้านล่างนี้ ผมเห็นด้วยจริงๆ ในหลักการ ขอให้ลองอ่านดูก่อน ดังนี้

หากต้องการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อ ชะตาให้ได้ผลจริงๆ นอกจากมีการจัด เตรียมเครื่องสักการะดอกไม้ ธูปเทียน และอื่นๆ ตลอดจนนิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์และ สวดพระปริตรตามประเพณีนิยม อย่างถูกต้องแล้ว

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยนั่นก็คือ ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า  เคราะห์ คือ กรรมชั่วหรือบาปที่เคยทำไว้และตามมาให้ผลในปัจจุบัน ทำให้ประสบกับชะตากรรม อันเลวร้ายเป็นทุกข์

ส่วนโชค คือบุญหรือความดีที่ทำมาแต่อดีตตามมาให้ผลทันในปัจจุบัน ทำให้ชีวิตนี้มีแต่ความสุข ประสบแต่ความสำเร็จ และจำให้ขึ้นใจว่า

การสะเดาะเคราะห์ คือการแก้กรรม โดยวิธีการละชั่ว คือแก้กรรมใหม่ หันมาทำแต่กรรมดีพร้อมกับ รักษากรรมดีความดีเอาไว้ให้ได้ และหมั่นชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด ไม่มีสิ่งที่จะมาทำให้เศร้าหมองอีกต่อไป

เพียงเท่านี้ก็ถือว่า ได้สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาที่ถูกต้องแล้ว


สิ่งที่ผมเห็นด้วยก็คือ “เคราะห์” ก็คือ ผลของกรรมเก่าที่ไม่ดี ซึ่งก็คือ กรรมชั่วหรือบาปที่เราเคยทำกันไว้  โชค” ก็คือผลของกรรมดี

“เคราะห์” ไม่ใช่ “ความโชคร้าย” ที่ใครนำมาใส่ตัวเราอย่างสุ่มเสี่ยง เช่น ไปเดินเหยียบเงาหมอผีมา หมอผีเลยส่งผีมาทำร้าย เป็นต้น

ต่อไปคือ วัตถุประสงค์จริงๆ ของผู้เขียน ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  สิ่งที่ผู้เขียนเขียนมาตั้งแต่ต้น ถูกทำลายไปโดยตัวของผู้เขียนเอง ด้านล่างนี้

พิธีสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมี ของวัดไผ่ล้อม

วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้จัดให้มีพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมี ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ของทุกปี จนเป็นประเพณี

สำหรับปีนี้วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตรงกันวันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๗

เริ่มพิธีเวลา ๑๔.๔๕ น. พระมงคลสิทธิการ (พูล) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยบูชาบูรพาจารย์ บุพการี และผู้มีพระคุณ ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล หลวงพ่อพูลทอดผ้าไตร พระสงฆ์บังสุกุล อนุโมทนา กรวดนํ้า

เวลา ๑๕.๔๕ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์นั่งประจำอาสนะ เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่อ่านประกาศพระบรมราชโองการ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา

เจ้าหน้าที่อ่านประกาศแต่งตั้งฐานานุกรม พระมงคลสิทธการ (พูล) มอบใบแต่งตั้ง พัดยศ ผ้าไตร แก่พระฐานานุกรม พร้อมถวายเครื่องสักการะแด่พระมงคลสิทธิการ (พูล) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สมโภชสัญญาบัตร พัดยศ ถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม

เวลา ๑๘.๑๙ น. พราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวง เทพยดา นพเคราะห์ ทั้ง ๙ พระองค์ บูชาฤกษ์ พระมงคลสิทธิการ (พูล) จุดเทียนชัย พราหมณ์ประกอบพิธีบูชาพระนพเคราะห์ทั้ง ๙ พระองค์

พระเถราจารย์นั่งบริกรรมคาถาสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมีแก่ผู้มาร่วมในพิธี จบแล้ว ประพรมนํ้าพระพุทธมนต์ ส่งท้ายปีเก่า รับพรปีใหม่ เสริมชะตาบารมี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เป็นเสร็จพิธี

ผู้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ทางวัดจะแจกภาพโปสเตอร์สี่สีหลวงพ่อพูล ขนาด ๑๒X๑๗ นิ้ว และเหรียญพระบรมสารีริกธาตุฟรีทุกคน


ผมไม่เห็นว่า พิธีสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมี ของวัดไผ่ล้อมจะเป็นการสะเดาะเคราะห์หรือเสริมบารมีตรงไหน 

พิธีสะเดาะเคราะห์ดังกล่าว “เป็นเพียงการหาเงิน” ของผู้จัดพิธีเท่านั้น

ที่พึงของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยการปฏิบัติ ทาน-ศีล-ภาวนา

การไปฟังพระสวดมนต์ มีพราหมณ์มาทำพิธีอีก  มันเป็นการสะเดาะเคราะห์อย่างถูกต้องได้อย่างไร

ผมได้เขียนไปหลายบทความแล้วว่า “การฝึกวิชาธรรมกาย” เป็นการสะเดาะเคราะห์ที่ถูกต้องที่สุด ไม่ต้องเสียเงิน และเคราะห์หรือกรรมเก่าหมดลงจริงๆ ถ้าผ่านวิชา 18 กาย.........




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น